Friday, July 18, 2014

Fukuoka Busan and Seoul Trip - ตอนที่ 7.5 ไปเที่ยวที่เบปปุ (Beppu) กันต่อ!!!

ตอนที่ 7.5 ไปเที่ยวที่เบปปุ (Beppu) กันต่อ!!!


Beppu Map-TravelPantip_Number2

       เมื่อออกจากร้านคุณลุงราเมง เราจึงมุ่งหน้าไปบ่อที่ 6 ต่อ บ่อนี้เป็นบ่อที่มีรูปปลา (Shiraike Jigoku) เป็นบ่อที่มีขนาดเล็กๆ และมีสวนหย่อมล้อมรอบ สีของน้ำในบ่อนี้มีลักษณะคล้ายน้ำนม เมื่อเดินเข้าไปข้างในเรื่อยๆ จะมี Aquarium ซึ่งมีปลาหลากหลายชนิด รวมทั้งปลาโบราณด้วย...

travelpantip_fukuoka106
น้ำเป็นสีน้ำนมจริงๆด้วย

travelpantip_fukuoka107
มี Aquarium อยู่ด้านหลังควันสีขาวๆ  

travelpantip_fukuoka108
ระหว่างเดินไปชมปลา ก็จะผ่านรูปปั้นต่างๆ
       จากนั้นเราจึงเดินไปยังบ่อจระเข้ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน (Oniyama Jigoku) เป็นบ่อที่มีอุณหภูมิที่พอเหมาะที่จระเข้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ผมแอบสงสัยว่า จริงๆแล้วเมื่อก่อนจระเข้มาอยู่ในบ่อนี้ก่อนอยู่แล้วหรือเขาเอาจระเข้มาปล่อยทีหลัง...อารมณ์เหมือนมาฟาร์มจระเข้เพราะมีจระเข้ตั้งแต่รุ่นลูกยันรุ่นทวดอยู่กันยัวเยี๊ยไปหมด ขาดอย่างเดียวคือไม่มีโชว์จระเข้แบบบ้านเรา...

travelpantip_fukuoka109
ยมบาลไม่ได้ออกกำลัง T25 แน่เลย ลงพุงเชียว อิอิ

travelpantip_fukuoka110
อายุ 65 ปี แต่เอ๊ะ...อย่างนี้ต้องเปลี่ยนป้ายทุกปีเลยละสิ..

travelpantip_fukuoka111
จระเข้ตัวเหลืองเชียว คงไม่ได้ชอบทานฟักทองนะ
       เราจึงมุ่งหน้าต่อไปยังบ่อที่ 4 คือบ่อทำอาหาร (Kamado Jigoku) ในบ่อนี้เป็นบ่อที่จัดเตรียมสถานที่เป็นเหมือนห้องครัวนรก โดยมีรูปปั้นยมบาลเป็นหัวหน้าพ่อครัว โดยบ่อนี้เราสามารถดื่มน้ำแร่ร้อนธรรมชาติได้ ซึ่งถามว่ากล้าดื่มไหม ก็น่าลองนะ แต่ว่าไม่ดีกว่า ฮ่าๆ
       ในบ่อที่ 4 นี้ มีผนังพ่นไอน้ำด้วย โดยเราสามารถนำหน้าไปอัง ไอน้ำนั้นเพื่อความสดชื่นของใบหน้า (หรอ?) ส่วนใครที่แต่งหน้าไป ระวังหน้าคงเยิ้มออกมาด้วยนะครับ...

travelpantip_fukuoka112
นี้มันหม้อไฟใช่ไหมเนี๊ย!?

travelpantip_fukuoka113
ทำป้ายซะน่ารักเชียว มีหลังคาด้วย

travelpantip_fukuoka114
แต่น้ำมันใสน่าเล่นจริงๆอ่ะ

travelpantip_fukuoka115
หัวหน้าพ่อครัวอยู่ตรงตรงบ่อ 100 องศานี้นี้เอง...อ้าวแล้วยังงี้น้ำไม่แห้งเป็นไอน้ำกันหมดหรอ

travelpantip_fukuoka116
บ่อโคลนนี้มีหลังคาป้องกันน้ำฝนชะล้างด้วย...แสดงว่าเป็นบ่อที่เอาโคลนมาถมเองแน่ๆเลย

travelpantip_fukuoka117
ถ้าไม่มีไม้กั้น ก็อยากเอามือไปสัมผัสดูเหมือนกันนะเนี๊ย

travelpantip_fukuoka118
รั้วสีแดงมันอาร์ตมาก ที่จะตัดกับสีเขียวและฟ้า 
       เราเดินต่อไปยังบ่อที่ 3 (Yama Jigoku) ที่อยู่ใกล้ๆกัน บ่อนี้จัดเตรียมสถานที่เหมือนสวนสัตว์ โดยมี นกฟามิงโก้ ลิงแสม ฮิปโป หรือแม้กระทั้งม้าแคระ เดินดูเพลินๆครับ... เมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะพบกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์คือบ่อน้ำร้อนนี้...ซึ่งผุดมาจากภูเขา ระหว่างเดินกลับผมมองไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่กระโปรงสั้นมาก...ตอนแรกผมนึกว่าคนญี่ปุ่นด้วยซ้ำ แอบคิดในใจว่าเขากล้าใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้เลยหรอ...แต่แล้วเมื่อเขาเดินผ่าน ผมได้ยินภาษาไทยชัดเจนเลยครับ ตอนแรกคิดว่าทำไมคนญี่ปุ่นพูดไทยชัดจัง...ใช่ที่ไหนกันละ!! ก็คนไทยนั้นแหละ ฮ่าๆ ผมเข้าใจนะ คือ อยู่ไทยคงไม่มีโอกาสได้ใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้ ประเทศนี้เลยเป็นประเทศที่เขาสามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาได้...แต่เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยเห็นคนญี่ปุ่นใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้หรอกครับ...

travelpantip_fukuoka119
ถึงจะไม่ใหญ่มาก แต่จัดได้ค่อนข้างสวยงามทีเดียว
       บ่อที่ 1 เป็นบ่อ Umi Jigoku บ่อนี้มีการจัดสวนรอบบึงน้ำสีเขียวมรกต ซึ่งสวยงามมากๆ แต่บึงสีมรกตนี้ไม่ได้เป็นน้ำร้อนนะครับ...เป็นบ่อสีฟ้านี้ต่างหาก...โดยเราสามารถเดินขึ้นภูเขาเพื่อมองชมวิวบ่อน้ำร้อนจากมุมบนได้เช่นกัน ผมว่าบ่อที่ 1 นี้เป็นบ่อที่สวยที่สุดแล้ว เหมาะสำหรับมานั่งเล่นพักผ่อนมากๆ

travelpantip_fukuoka120
ร่มรื่นมากๆ ยังมีซากุระหลงเหลืออยู่ด้วย

travelpantip_fukuoka121
ทำไมพอเห็นอะไรกั้นๆอยู่...ผมอยากจะลองเดินเข้าไปดูทุกที

travelpantip_fukuoka122
ตรงนี้เป็นน้ำตกร้อน...ตกไปจะเป็นยังไงละเนี๊ย
      อ้าว! แล้วบ่อที่ 2 หายไปไหนละ...อ๋อ อยู่ใกล้ๆกันนั้นเอง บ่อนี้มีชื่อว่า Oniishibozu Jigoku หรือที่เรียกกันว่าบ่อโคลน คือมันเป็นโคลนสีเทาๆ เหมือนตะกั่ว บางคนบอกว่าลักษณะมันคล้ายกับพระที่โกนผมแล้ว (แล้วพระที่ไหน ไม่โกนผมละ) บ่อที่ 2 นี้มีที่สระน้ำอุ่นเล็กให้แช่เท้ากันด้วย...มีหรือเราจะพลาด...

travelpantip_fukuoka123
บ่อโคลนสีตะกั่ว มันเป็นวงสวยมากๆ

travelpantip_fukuoka124
ลองเข้ามาดูใกล้ๆกัน
       ระหว่างที่แช่เท้าอยู่นั้น ผมรบกวนชาวต่างชาติคนอื่นที่เดินผ่าน ช่วยถ่ายรูปคู่ให้ เขาก็ยินดีที่จะถ่ายให้ เอ้า 1 2 3..แช๊ะ

travelpantip_fukuoka125
ขอบคุณมากครับ สำหรับน้ำใจอันงดงาม T^T
       เมื่อมองดูนาฬิกา ตอนนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. ใจหนึ่งก็อยากไปดูสถานที่ ที่คุณลุงราเมงบอกเอาไว้ แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะกลับรถไฟไป Hakata ไม่ทัน สุดท้ายแล้วจึงต้องรีบกลับดีกว่า...ต้องขอโทษคุณลุงด้วยที่ผมบอกว่าจะไป แต่สุดท้ายไม่ได้ไป..โคตรรู้สึกผิดเลยอ่ะ เราจึงออกไปรอรถบัสข้างๆบ่อที่ 2 โดยตอนขากลับ เป็นรถบัสคันสีชมพู 

travelpantip_fukuoka126
นั่งรอประมาณ 20 นาที แต่ไม่รู้สึกว่านานเลย สงสัยเพราะอากาศเย็น ใจก็เลยเย็น
       ส่วนรถไฟกลับไป Hakata นั้นเป็นรถไฟ Sonic ขบวนสีน้ำเงิน ซึ่งจะยิงยาวไป Hakata เลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

travelpantip_fukuoka127
ระหว่างรอรถไฟ Sonic

travelpantip_fukuoka128
ในที่สุดก็มาแล้ว

travelpantip_fukuoka129_1
ภายในรถไฟ

travelpantip_fukuoka129_2
ที่รองศีรษะเหมือนหูมิกกี้เม้าส์เลย
       ระหว่างที่กลับนั้น เราก็เห็นครอบครัวคนไทยครอบครัวหนึ่ง คุยโดยใช้ภาษาไทยกันอย่างสนุกสนาน แต่เขาคงไม่รู้ว่าเราเป็นคนไทยเหมือนกัน...เมื่อเราเริ่มพูดภาษาไทยคุยกันเองบ้าง เหมือนเขาคงได้ยินเราคุยภาษาไทย ทางนั้นจึงเริ่มอัพเกรดตัวเอง คุยกันโดยใช้ภาษาอังกฤษตลอด... คือผมก็ไม่เข้าใจนะครับ ว่าเพราะอะไร ฮ่าๆ ตลกมาก...หรือเป็นเพราะที่เขาคุยกันเป็นความลับมากๆ จนไม่อยากให้เราได้ยิน แต่ที่แน่ๆ หากคุยเป็นภาษาอังกฤษ ยังไงคนก็ฟังได้รู้เรื่องก็ต้องเยอะกว่าเดิมแน่ๆ

       เมื่อรถไฟเดินทางมาถึงสถานีชุมทางหนึ่ง แต่ยังไม่ใช่สถานี Hakata ผู้คนจำนวนครึ่งหนึ่งเริ่มลงออกจากรถ จากนั้นผมเริ่มเห็นผู้โดยสารท่านอื่นเริ่มหมุนเบาะนั่ง เพราะว่ารถจะวิ่งอีกฝั่งหนึ่ง (เหมือนวิ่งกลับ)


       ไฮโซมาก เกิดมาเพิ่งเคยเห็นว่าหมุนเบาะได้ด้วย...ก็ใช่นะสิ ปกตินั่งแต่รถไฟชั้น 2 พับเป็นเตียงได้ก็หรูแล้ว...

       เมื่อเดินทางมาถึงสถานี Hakata เราจึงเดินซื้อของฝากในญี่ปุ่นเพราะว่าคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่อยู่ที่นี้แล้ว เพราะพรุ่งนี้เราจะมุ่งหน้าไปยังเมืองปูซานประเทศเกาหลีในตอนเช้า...

       ระหว่างทางที่เดินซื้อของอยู่นั้น ก็ได้มาเจอกับหุ่นโดราเอมอนเป็นจำนวนมาก ยืนเรียงรายกันอยู่พร้อมกับของวิเศษ...แต่คนถ่ายรูปค่อนข้างเยอะ เลยไม่ได้มีจังหวะเก็บภาพมาทั้งหมด...จึงเดินซื้อของฝากกันต่อ จากนั้นก็กลับที่พักที่ข้าวสารโฮสเทลที่เดิม เตรียมตัวออกเดินทางวันพรุ่งนี้ต่อ

travelpantip_fukuoka130
โดราเอมอนเกือบ 30 ตัว

travelpantip_fukuoka131
จบค่ำคืนสุดท้ายทีเมือง Hakata

3 comments:

  1. ถามได้ไหมคะ ว่าสถานที่ที่คุณลุงบอกคืออะไรหรือคะ พอดีกำลังจะไปที่นั่น เลยอยากรู้ว่ามีอะไรน่าสนใจอีกน่ะค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่ามันคือที่ไหน แต่ดูเหมือนต้องนั่งรถเมล์ไปอีกสัก 10-15 นาที
      ซึ่งหากไปเที่ยววันเดียวอาจจะไปไม่ทันนะครับ ต้องลองกะเวลาดูครับ

      ไม่งั้นลองเข้าไปถามร้านคุณลุงดูก็ได้ครับ ฮ่าๆ ส่วนร้านของลุงอยู่แถวๆป้ายรถเมล์ของบ่อ 1-6 เลยครับ

      Delete
  2. รออ่านตอนไปเกาหลีค่ะ กะลังจะตามรอย

    ReplyDelete